จบปัญหา ผิวแห้งกร้าน เป็นขุย กลับมาชุ่มชื่นเปล่งปลั่งได้ไม่ยากด้วยวิธีต่อไปนี้

เชื่อว่า สาว ๆ หลายคน คงสุดจะทนแล้วกับปัญหา ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น แห้งจนไม่น่าสัมผัส จนเริ่มสงสัยว่า ผิวแห้งกร้านเป็นโรคอะไร หรือไม่ ?

ซึ่งปัญหาเรื่องของผิวพรรณ เป็นปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะถ้าเรามีหน้าตาที่สวยงาม หรือมีบุคลิกภาพที่ดีแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อสวมเสื้อผ้าออกมาแล้ว ก็ยังคงมองเห็นส่วนนอกร่มผ้า ไม่ว่าจะเป็นมือ หรือใบหน้า ที่ทำให้เห็นได้ว่าผิวพรรณดูสุขภาพไม่ดี ก็คงจะทำให้เราเสียความมั่นใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับปัญหาในเรื่องของผิวพรรณที่สาว ๆ หลายคนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ มีปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง มีจุดด่างดำ หรืออื่น ๆ แต่ไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะคืออะไร หากเรารู้จักใส่ใจที่จะมองถึงปัญหานั้น เราก็สามารถที่จะรักษาอาการเหล่านั้นให้หายได้ แล้วกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง

ใครที่คิดว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่กับปัญหา ผิวแห้งกร้าน หรือ ลักษณะของผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้น บอกเลยว่ารอช้าไม่ได้แล้ว คุณต้องรู้จักวิธีการรับมือที่ถูกต้องเพื่อให้ผิวของคุณกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง เปลี่ยนผิวที่แห้งให้กลายเป็นเนียนนุ่ม ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูถึงต้นตอของการเกิดผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น และนำวิธีการดูแลผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น และน่าสัมผัส มาฝากกันค่ะ

ผู้หญิงเรามักให้ความสำคัญกับเรื่องของผิวพรรณเป็นพิเศษ แต่บางคนก็อาจมีปัญหา ผิวแพ้ง่าย ผิวมัน หรือ ผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น ซึ่งดูแล้วไม่ใช่คุณลักษณะของผิวที่มีสุขภาพดี โดยส่วนใหญ่แล้ว เชื่อว่าทุกคนก็อยากที่จะมีผิวพรรณสุขภาพดี เนียนสวยเปล่งปลั่ง น่าสัมผัส แต่เมื่อเราพบกับปัญหา ก็จะต้องมองหาวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและดีที่สุดสำหรับแต่ละคน ซึ่งก่อนที่เราจะได้รู้ว่าวิธีการแก้ปัญหาให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น ไม่แห้ง ไม่เป็นขุย สามารถทำอย่างไรได้บ้าง เราจะต้องรู้ก่อนว่า ผิวแห้งกร้าน นั้นมีลักษณะอย่างไร

ลักษณะอาการของ ผิวแห้งกร้าน คือลักษณะอาการของผิวที่ไม่มีความมันอยู่บนชั้นผิวเลย บริเวณรอบ ๆ จะรู้สึกตึงแห้ง และสามารถสังเกตได้หลังจากการล้างหน้าหรือทำความสะอาดผิว ผิวจะตึงเป็นพิเศษ ซึ่งสภาพของผิวที่มีความแห้ง ยังสามารถที่จะแตกลอกออกเป็นขุย หรืออาจจะลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ เลยหากมีอาการแห้งที่รุนแรง เมื่อมีการลอกออกมาเป็นแผ่น ก็อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บและมีปัญหาอื่นตามมา เช่น ความไม่เรียบเนียนของพื้นผิว เนื้อผิวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการอักเสบและเป็นแผลได้

สำหรับสาเหตุของอาการ ผิวแห้งกร้าน ซึ่งเป็นปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น อาจจะมีหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในร่างกายที่สามารถเกิดขึ้นได้จาก ต่อมไขมันผลิตน้ำมันในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือเรียกได้ว่าการผลิตน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้ผิวมีการสูญเสียความชุ่มชื้น จนผิวค่อย ๆ แห้งและแตกลอกเป็นขุยในที่สุด หรือจะเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดจากการสัมผัสสารเคมีต่าง ๆ รวมไปถึงฝุ่นละออง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ผิวของคุณค่อย ๆ แห้งลง ซึ่งเราจะยก 5 ตัวอย่างให้คุณได้รู้ว่า ผิวแห้งกร้านเกิดจากอะไรได้บ้าง โดยทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวและการใช้ชีวิตในประจำวันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น

1. สาว ๆ ที่ชื่นชอบการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวของคุณค่อย ๆ แห้งกร้าน เพราะอุณหภูมิของน้ำ จะทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง และขจัดน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไป
2. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่มีฤทธิ์เป็นกรดและมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม ทำให้ผิวพรรณแห้งแตกได้ง่ายและขาดความชุ่มชื้น จนเกิดการระคายเคืองผิว ยิ่งถ้าคุณมีลักษณะของผิวแห้งแพ้ง่าย ควรที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายแบบอ่อนโยน
3. ดื่มน้ำน้อย ในช่วงที่อากาศร้อน สำหรับคนที่ดื่มน้ำน้อยเป็นประจำ จะทำให้น้ำในร่างกายค่อย ๆ ลดลง การผลิตน้ำมันในชั้นผิวหนังก็จะน้อยลงด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ความชุ่มชื้นของผิวค่อย ๆ หายไปจนผิวแห้งกร้านในที่สุด
4. ปัจจัยทางสภาพอากาศ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ผิวพรรณของคุณมีลักษณะแห้งกร้านได้ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ผิวก็แห้งได้ คุณจะต้องคอยสังเกต หากร้อนเกินไป ผิวหนังชั้นนอกก็จะถูกทำลาย ทำให้เซลล์ผิวผิดปกติ หรือหากเย็นเกินไป ผิวก็จะค่อย ๆ แห้งจนลอกเป็นขุยในที่สุด
5. การทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ก็มีส่วนกระตุ้นการทำลายผิวเช่นเดียวกัน เนื่องจากต่อมไขมันจะไม่สามารถที่จะผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวได้ เพราะขาดสารอาหารที่มีความจำเป็นเป็นตัวกระตุ้น ก็จะส่งผลให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลงได้เช่นกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ปัญหาผิวแห้งกร้านก็สามารถเกิดขึ้นได้ ลักษณะของผิวแห้ง มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ ด้านอย่างที่เราได้บอกไปแล้วข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทั้งภายในร่างกาย ในเรื่องของการทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ และมีประโยชน์เพียงพอต่อการใช้พลังงานในด้านต่าง ๆ หรือจะเป็นปัจจัยภายนอก รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันก็มีส่วนช่วยกระตุ้นในเรื่องของผิวพรรณทั้งนั้น

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ตอนนี้คุณจะหันกลับมาดูแลตัวเอง และดูแลสุขภาพผิวให้สมกับวัย บางคนอายุยังไม่ถึง 30 แต่สุขภาพผิวทำให้อายุเกินไปกว่า 40 ก็มี ถ้าคุณไม่อยากดูแก่ก่อนวัยอันควร การดูแลสุขภาพผิวให้เนียนนุ่ม เต่งตึง และน่าสัมผัส ก็เป็นสิ่งที่คุณควรจะทำ

ซึ่งวิธีการดูแลผิวก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ซึ่งถ้าคุณกำลังกังวลว่าปัญหาผิวแห้งกร้านมีวิธีแก้ไขได้หรือไม่ ก็บอกได้เลยว่าคุณสามารถที่จะบำรุงรักษาผิวพรรณให้กลับมามีสุขภาพดีเหมือนวัยแรกรุ่นได้ไม่ยาก และส่วนใหญ่แล้วปัญหาผิวที่มีความแห้งกร้านหรือผิวขาดความชุ่มชื้น มักจะพบได้ในวัยทำงานที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 25 – 45 ปี โดยประมาณ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายทำงานหนัก พักผ่อนน้อย รวมไปถึงมีปัจจัยหลายอย่างกระตุ้นด้วย

เคยสังเกตตัวเองหรือไม่ว่าคุณมีลักษณะผิวที่แห้งกร้าน คัน เป็นผื่น หรือเมื่อเกาแล้วมีลักษณะเป็นขุยหรือไม่ ถ้าคุณเคยพบเจอกับอาการใดอาการหนึ่งเหล่านี้ ให้รู้ไว้เลยว่าตอนนี้ผิวของคุณกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นสัญญาณเตือนว่าผิวของคุณกำลังขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื่น และถ้าปล่อยให้ผิวแห้งจนเกินไป คุณก็อาจจะต้องเกา และเมื่อเกาแรงก็จะเกิดเป็นแผล ซึ่งผลที่ตามมายังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผลอักเสบทำให้ผิวหนังเสีย และกลายเป็นแผลเป็น ไม่เนียนสวยอีกต่อไป

ดังนั้นเราควรที่จะใส่ใจและสังเกตตัวเองอยู่เสมอว่าลักษณะของผิวพรรณของเรากำลังเกิดปัญหาอะไรหรือไม่ รวมถึงต้องรู้จักที่จะดูแลรักษาผิวพรรณให้มีความชุ่มชื้น และสุขภาพดีอยู่เสมอ ที่สำคัญอาการของผิวแห้งยังสามารถบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบภายในร่างกาย เกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่นการผลิตน้ำในต่อมไขมันที่มีประสิทธิภาพการทำงานลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวแห้งกร้านนั้นเอง

มาถึงตอนนี้คงเข้าใจแล้วว่า ปัจจัยที่เป็นสาเหตุหลักของผิวแห้งกร้าน รวมไปถึงลักษณะของผิวแห้งเป็นอย่างไร ซึ่งต่อมาก็คงมีคำถามว่า ถ้าผิวแห้งกร้านต้องเติมวิตามินอะไร เพราะหลายคนคงเคยได้ยินว่าผิวแห้งเกิดจากผิวที่ขาดวิตามิน

ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า วิตามินเป็นส่วนช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดูสวยงามเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดีแข็งแรง นั่นก็มาจากปัจจัยในการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่เพียงพอต่อการใช้งานของระบบอวัยวะภายใน อย่างเช่นการดูดซึมวิตามินจากสารอาหาร ซึ่งวิตามินบางอย่างที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว เช่น วิตามินซี วิตามินอี ที่เป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยในการบำรุงเรื่องของผิวพรรณ การเติมวิตามินให้กับร่างกายที่ไม่สามารถผลิตเองได้ ก็เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นไม่แพ้ไปกับวิธีการดูแลในด้านอื่น ๆ

โดยวิธีการดูแลผิวให้กลับมาชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้มีด้วยกัน 5 วิธีได้แก่

• ทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซี และวิตามินอี เป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมวิตามินไปใช้บำรุงผิวพรรณได้อย่างเต็มที่ เมื่อวิตามินซึมเข้าสู่ผิวก็จะช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้ว หรือเซลล์ผิวที่โดนทำร้าย เป็นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้กระจ่างใสกว่าเดิม และยังช่วยให้ฟื้นฟูต่อมผลิตน้ำมันในชั้นผิวหนังได้อีกด้วย
• การทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายให้ถูกวิธี จะช่วยไม่ให้น้ำมันธรรมชาติในผิวถูกทำลายไป ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีความอ่อนโยน ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ใช้ครีมอาบน้ำที่เป็นสูตรอ่อนโยน จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวมากกว่าการใช้สบู่
• บำรุงผิวด้วยน้ำผึ้ง คุณสามารถที่จะสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ด้วยคุณสมบัติของน้ำผึ้ง เพียงแค่ทาน้ำผึ้งในบริเวณที่แห้งหรือมีรอยแตก รวมไปถึงรู้สึกคัน ก็จะช่วยบรรเทาอาการคัน และทำให้ผิวที่หยาบกร้านกลับมาเนียนนุ่มได้อีกครั้ง
• หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน สำหรับคนที่ชื่นชอบการอาบน้ำอุ่นและนอนแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายนั้น ถ้าในช่วงที่ผิวแห้ง ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด หรือทำเพียงแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง เพื่อที่จะไม่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำมากจนเกินไป แล้วผิวที่แห้งอยู่แล้วก็จะแห้งขึ้นไปอีก
• ทาครีมบำรุงผิวในขณะที่ร่างกายยังมีความหมาดอยู่ จะช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ และที่สำคัญผิวจะได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ เพราะน้ำจะผสมเข้ากับครีมบำรุงผิว แล้วค่อย ๆ ซึมเข้าสู่รูขุมขนตามร่างกาย ทำให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้น และรู้สึกสบายขึ้น

เคยได้ยินหรือไม่ว่าถ้าเรากินดีก็จะมีสุขภาพที่ดี การเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ จะส่งผลโดยตรงกับระบบภายใน ทำให้อวัยวะภายในสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้อย่างตรงจุด

เชื่อว่าหลายคนคงไม่มั่นใจว่า การทานผลไม้บำรุงผิวแห้งกร้านได้หรือไม่ ผลไม้บางชนิดมีวิตามินสูง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี หรือวิตามินอี ล้วนแต่เป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวแห้งกร้านทั้งนั้น ดังนั้นถ้าเราเลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินสูง ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน และเสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพผิวได้อย่างแน่นอน

ถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ได้หรือยังไม่รู้ว่าผิวแห้งกร้านต้องเติมวิตามินอะไร รวมถึงจะเลือกกินผักผลไม้ชนิดไหนดี ลองเริ่มจากผลไม้ที่อยู่ใกล้ตัวมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

• มะเขือเทศ ซึ่งหลายคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าในมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซี ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณเป็นพิเศษ
• อะโวคาโด ผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ ที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นมากมาย
• ส้ม ที่มีวิตามินซี และวิตามินบี ล้วนแต่เป็นสารสำคัญที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและลดการชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้
• ฝรั่ง ผลไม้ตามฤดูกาลอีกหนึ่งชนิด ที่ช่วยขับสารพิษในร่างกายและผิว ทำให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีแข็งแร็งขึ้นได้

เห็นหรือไม่ว่า แค่คุณเลือกทานผัก ผลไม้ใกล้ตัวก็สามารถลดปัญหาผิวไม่สวย ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นที่คุณกำลังพบเจออยู่ก็จะค่อย ๆ หายไป และสามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มั่นใจในการแต่งตัว พร้อมที่จะโชว์ผิวสวยได้อีกครั้งแล้วค่ะ