เคยได้ยินไหมว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ก็เช่นเดียวกันกับผิวพรรณของเรานี่ล่ะ ที่เป็นสิ่งแสดงออกถึงความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายฉันนั้น สำหรับใครที่อยากให้ตัวเองแลดูสุขภาพดี สดใส เปล่งปลั่งอยู่เสมอ ก็คงต้องบำรุงผิวพรรณกันมากหน่อย ! เพราะกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้เราได้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ก็ต้องใช้เวลาบำรุงผิวพรรณเหมือนกับการบำรุงร่างกายส่วนอื่น ๆ เหมือนกัน

หลากคนมักคิดว่าผิวที่สุขภาพดี คือผิวที่กระจ่างใส แต่ความจริงแล้วผิวสุขภาพดีมีประเภทบ่งบอกมากกว่าที่คิด สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นดูแลผิวพรรณ มาหาคำตอบจากบทความนี้กัน !

ผิวแบบไหนที่เรียกว่าสวยสุขภาพดี ?

การมีผิวสุขภาพดี ไม่ใช่แค่เพียงมีผิวใสอย่างเดียวเท่านั้น แต่ความสุขภาพดีที่แสดงออกผ่านทางผิวพรรณ สามารถบ่งบอกได้ 6 ประเภทดังนี้

1. ผิวเรียบเนียน
ไม่ว่าจะใช้มือลูบไล้สัมผัส หรือมองด้วยตาเปล่า ผิวสุขภาพดีจะมีความเรียบเนียน นุ่ม ลื่น ไม่มีรอยตะปุ่มตะป่ำ ไร้สิว ริ้วรอยเหี่ยวย่น และรอยแผลเป็น โดยเฉพาะความโกลว์ ความเปล่งประกาย จะเผยออกมาอย่างเห็นได้ชัด

2. สีผิวสม่ำเสมอ
ไม่มีจุดด่างดำ อีกหนึ่งสัญญาณของผิวอ่อนแอ คือการที่สีผิวไม่เท่ากัน และมีจุดดำ จุดแดง ทำให้เราไม่มีความมั่นใจในการเผยผิวเท่าไหร่นัก ดังนั้นการมีสีผิวที่สม่ำเสมอจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่บอกว่าเรามีผิวแข็งแรง และดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

3. ผิวมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
ผิวสุขภาพดีจะดูอิ่มน้ำ อิ่มฟู ดูชุ่มชื้น มีน้ำหล่อเลี้ยงผิวตลอดเวลา ต่างจากผิวอ่อนแอที่ขาดความชุ่มชื้น เพราะผิวจะมีความหยาบ แห้งเป็นขุย เมื่อลูบไล้จะมีความสาก ซึ่งผิวที่ชุ่มชื้นสามารถบ่งบอกได้ว่าการสร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ใต้ชั้นผิวหนังเป็นไปด้วยดี

4. ไม่มีปัญหาผิวเรื้อรัง
ไม่ว่าจะเป็นผดผื่นแดง รอยสิว สิวทุกประเภท หรือสารพัดปัญหาสิวที่พบเจอ หากเป็นอยู่ซ้ำ ๆ รักษาไม่หายสักที ก็นับเป็นปัญหาผิวเรื้อรังทั้งสิ้น ซึ่งปัญหาผิวเหล่านี้จะยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอ และง่ายต่อการเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา และกลับมาเป็นซ้ำอยู่เรื่อย ๆ

5. ผิวกระชับเต่งตึง
ผิวที่กระชับเต่งตึง ไม่หย่อยคล้อย นอกจากจะไม่ทำให้เราดูแก่ก่อนวัยแล้ว ยังบ่งบอกถึงคุณภาพของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังได้ดี เพราะผิวที่สุขภาพดี จะต้องมีคอลลาเจนคอยเลี้ยงจำนวนมาก ทำให้เต่งตึง ปราศจากริ้วรอย และไม่เหี่ยวย่น

6. มีผิวที่แข็งแรง
ผิวที่แข็งแรง เปรียบเสมือน Barrier ป้อมปราการที่ช่วยปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก ซึ่งการจะมีผิวที่แข็งแรงได้นั้น ส่วนหนึ่งก็เกิดจากใช้ชั้นผิวหนังมีคอลลาเจนและอีลาสตินที่แข็งแรงเช่นเดียวกัน เมื่อผิวของเราแข็งแรง ก็จะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้ามัน เป็นสิว รอยแดง ผื่นคันแพ้ง่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย

ปัญหาผิวที่พบได้บ่อย

  1. ผิวมัน เป็นสิวง่าย เมื่อความมันบนผิวหน้าไปจับกับสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่น มลภาวะ หรือเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว อาจทำให้รูขุมขนอุดตัน เป็นสิวได้ง่าย โดยสาเหตุของปัญหาผิวมันเกิดจากต่อมน้ำมันใต้ชั้นผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
  2. ผิวแห้ง แพ้ง่าย เมื่อผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ จะทำให้ผิวดูแห้งกร้าน สาก ลอกเป็นแผ่น ระคายเคืองได้ง่าย และเมื่อจำเป็นต้องแต่งหน้า หรือทาสกินแคร์ตัวใหม่ ๆ อาจทำให้ผิวทำปฏิกิริยาต่อสารเคมีไวกว่าผิวที่แข็งแรง ส่งผลให้มีปัญหาผิวแพ้สารเคมีในที่สุด
  3. ผิวหมองคล้ำ เมื่อผิวเผชิญกับสภาพอากาศที่มีมลภาวะ แสงแดดแรง มีความเครียด พักผ่อนน้อย จะทำให้ผิวมีความหมองคล้ำ ผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่สดใส เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าความจริงแล้วจะนอนครบ 7 ชั่วโมงก็ตาม
  4. ผื่นผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis) เมื่อผิวมีความแห้งหรือมันเกินไป สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ สภาพอากาศที่มีมลภาวะเยอะ แดดแรง หรือหนาวจัด จะทำให้ผิวมีอาการบวมแดง ระคายเคือง มีตุ่มคัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดคอลลาเจนที่ช่วยให้เกิดความชุ่มชื้น จึงอาจพบปัญหาผิวอักเสบและอาการคันร่วมด้วย

5 เคล็ดลับนางฟ้า บำรุงผิวสวยเปล่งเปล่ง ดูสดใสสุขภาพดี

  1. ทาครีมกันแดดทุกวัน ถ้าอยากปกป้องชั้นผิวไม่ให้ถูกรังสียูวีทำลาย ต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน หรือตอนที่ต้องไปทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกครั้ง เพราะจะช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ ความหมองคล้ำได้
  2. ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี การล้างหน้าที่ถูกวิธี คือต้องล้างเป็นประจำทั้งก่อนนอนและตอนตื่น เพื่อล้างไขมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอื่น ๆ
  3. งดสูบบุหรี่ / เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสารเคมีในบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นศัตรูชั้นดีที่ไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เหี่ยวย่น ขาดความยืดหยุ่น แถมยังแห้งกร้าน สูญเสียน้ำที่ไปหล่อเลี้ยงผิว
  4. ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม การดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้ผิว และลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงผิวได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับล้างสารพิษในร่างกาย ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
  5. ทานคอลลาเจน เพราะคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของชั้นผิวมากถึง 80% และเปรียบเสมือนกาวชั้นดีที่ช่วยยึดเกาะผิวหนังให้แข็งแรง ไม่เหี่ยวย่น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับคอลลาเจนอย่างเพียงพอประมาณ 5,000-7,000 มิลลิกรัม/วัน เพื่อเติมสารอาหารให้ผิว

สำหรับใครที่กำลังเริ่มดูแลผิว เราขอแนะนำให้ดูแลอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไป แต่มาเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ และมีวินัยกับตัวเองจะเห็นผลดีที่สุด แม้ต้องใช้เวลาสักนิดแต่ผิวของเราจะแข็งแรงและสุขภาพดีในระยะยาวอย่างแน่นอน

Mana Collagen 1 แถม 1
ผิวขาวกระจ่างใส ลดสิว แก้ริ้วรอย ผิวเนียนนุ่ม ลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยคุณสมบัติโมเลกุลขนาดเล็กระดับนาโนทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ไวภายใน 7-14 วัน

คอลลาเจนไดเปปไทด์ Asahi ลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น ดูดซึมได้ไวกว่าคอลลาเจนทั่วไป 55 เท่า