คอลลาเจนไดเปปไทด์ ตัวช่วยที่ดีของคนสูงวัย

วัยที่เพิ่มขึ้นมักมาพร้อมกับความปัญหาสุขภาพที่ตามมา หนึ่งในปัญหาแห่งวัยนั้นย่อมหนีไม่พ้นเรื่องกระดูกและข้อ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา และปวดข้อเข่า ซึ่งการทานอาหารทั่วไปในชีวิตประจำวันอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยลดความเสื่อมของกระดูกและข้อได้อีกต่อไป

ในช่วงอายุ 20 กว่า ๆ จะเป็นช่วงที่กระดูกมีมวลหนาแน่นมากที่สุด แต่เมื่ออายุมากขึ้นตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป มูลกระดูกของเราจะเริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ และเริ่มมีสัญญาณที่บ่งบอกว่าเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ เช่น เจ็บแปลบหรือมีเสียงกร๊อบแกร๊บที่เข่าเมื่อเดิน มีอาการปวดหลัง ปวดเอว หรือตามข้อต่อต่าง ๆ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความเสื่อมสภาพตามวัย ได้แก่

• อายุหรือความเสื่อมแบบปฐมภูมิ บางครั้งอาจไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวกระดูกอ่อนตามวัยและอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อของร่างกายด้วย
• น้ำหนักตัวมากเกินไป โดยเฉพาะในผู้สูงวัยที่ระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลงหรือภาวะแทรกซ้อนของโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคเก๊าต์หรือรูมาตอยด์ เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นทุก ๆ 0.5 กิโลกรัม จะเพิ่มแรงกระทำหรือแรงกดต่อข้อเข่า 1-1.5 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ข้อเข่าต้องรับแรงกระแทกเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งไขมันในร่างกายมากเกินไปจะทำให้เซลล์กระดูกและกระดูกอ่อนเสื่อมสภาพได้เร็วยิ่งขึ้น
• พฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการนั่ง การยืน หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามาก เช่น การนั่งคุกเข่านาน ๆ การยืนที่ทิ้งน้ำหนักไปที่เข่าข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป หรือการเดินขึ้นหรือลงบันไดบ่อย ๆ ล้วนมีส่งผลให้มีอาการปวดเข่าในระยะยาว

ซึ่งสาเหตุเหล่านี้จะทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายเริ่มมีปัญหา หรือหากมีอาการรุนแรงจะมีอาการปวดมากในตอนกลางคืน หรืออาจมีกระดูกงอกบริเวณข้างข้อ เมื่อเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาจะมีอาการปวดหรือเสียวบริเวณกระดูกสะบ้า รวมทั้งพบน้ำในช่องข้อด้วย หากปล่อยไว้นานไปอาจทำให้เหยียดหรืองอข้อเข่าไม่ได้ค่อยสุด ข้อเข่าโกง หลวมหรือบิดเบี้ยวผิดรูปไปในที่สุด ดังนั้นหากเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ควรเริ่มใส่ใจดูแลตนเองมากขึ้น โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การทานอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยในเรื่องของกระดูกและข้อของผู้สูงวัย

คอลลาเจน หนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยอดนิยมที่มีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ รวมถึงกระดูกและข้อด้วย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาโมเลกุลของคอลลาเจนให้มีขนาดเล็กลง นั่นก็คือ คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) ซึ่งโดยปกติแล้วคอลลาเจนซึ่งเป็นใยโปรตีนที่ร่างกายสร้างขึ้นเองได้และพบในอาหารต่าง ๆ เช่น กระดูกหรือหนังสัตว์ มักจะมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน (Da) จึงมีการย่อยโมเลกุลของคอลลาเจนให้มีขนาดเล็กลงนรูปแบบของ ‘ไดเปปไทด์’ ที่มีกรดอะมิโนเรียงต่อกันเพียง 2 ตัวเท่านั้น โดยมีโมเลกุลเฉลี่ยเล็กเพียง 200 ดาลตัน (Da) เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที

คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการสกัดคอลลาเจนที่อยู่ในรูปแบบของไดเปปไทด์ที่สามารถดูดซึมได้เร็วและมากกว่าบรรดาคอลลาเจนทั่วไปหลายเท่าตัว ร่างกายจึงไม่จำเป็นต้องย่อยคอลลาเจนไดเปปไทด์ที่กระเพาะอาหารเมื่อทานเข้าไป แต่จะถูกลำเลียงและดูดซึมที่ลำไส้เล็กก่อนเข้าสู่กระแสเลือดและเซลล์เป้าหมายทันที ไม่ว่าจะเป็น เซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูก และเซลล์กระดูกอ่อน เป็นต้น

คอลลาเจนไดเปปไทด์ จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และทานเป็นอาหารเสริม ผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมหรือในผู้ที่มีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกเปราะ เนื่องจากคอลลาเจนไดเปปไทด์มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดจากความเสื่อมของกระดูกและข้อ รวมทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย ทั้งหลอดเลือด ผิวหนัง เล็บ เส้นผม โดยเฉพาะเส้นเอ็นและกระดูกอ่อนอันเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาปวดเข่าหรือข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

• ชะลอความเสื่อมของกระดูกและเซลล์กระดูก
• ช่วยยับยั้งการเสื่อมของเซลล์คอนโดไซด์ (Chondrocytes) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกอ่อน
• ช่วยเพิ่มน้ำในข้อต่อทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ไม่เกิดการขัดกันเวลาขยับตัว
• กระตุ้นการสร้างไกลโคสะมิโนไกลแคน (Glycosaminoglycan) ทำให้เนื้อเยื่อข้อต่อสามารถทนทานต่อแรงกดได้
• ลดภาวะความเสื่อมของข้อ ลดการอักเสบและอาการเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหว
• เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

คอลลาเจนไดเปปไทด์ จึงเรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนที่ดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยโมเลกุลที่มีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่ระบบย่อยอาหารและการดูดซึมเสื่อมประสิทธิภาพลงตามวัย ตัวช่วยเสริมอย่างคอลลาเจนไดเปปไทด์จึงถือเป็นพระเอกที่ช่วยชะลอความเสื่อมของกระดูกและข้อเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ตอบโจทย์ผู้สูงวัยและผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังชะลอความเสื่อมของผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย