หลายคนอาจเคยได้ยินหรือคุ้นเคยกับคอลลาเจนกันมาบ้างในรูปของอาหารเสริมชนิดต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง มีน้ำมีนวล และอ่อนเยาว์กว่าวัย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเลือกทานคอลลาเจนเพื่อความสวยความงามของร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าคอลลาเจนนั้นไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของสุขภาพผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อได้อีกด้วย!

เมื่ออายุและสุขภาพเริ่มร่วงโรย คอลลาเจนในร่างกายก็ลดน้อยลงตามไปด้วย จึงก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา โดยเฉพาะปัญหาปวดตามเข่า ปวดตามข้อต่อต่าง ๆ ตามร่างกาย รวมถึงกระดูกและเอ็นที่เสื่อมสภาพลง ทำให้ผู้คนต่างหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและการทานคอลลาเจนเสริมมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะเลือกคอลลาเจนมาทาน ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าคอลลาเจนคืออะไรและช่วยลดปัญหากระดูกและข้อได้อย่างไร เพื่อให้เลือกคอลลาเจนที่ดีที่สุดต่อร่างกายมาทานได้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

คอลลาเจนคืออะไร ?

คอลลาเจน (Collagen) เป็นชื่อของโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของกรดอะมิโนหลายชนิด พบได้ตามกระดูก กระดูกอ่อน เล็บ ผิวหนัง รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายของสัตว์และมนุษย์ ซึ่งคอลลาเจนในร่างกายมนุษย์เรานั้น มีทั้งที่ได้รับจากสารอาหารที่ทานเข้าไปและที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองได้

คอลลาเจนมีกี่ชนิด ?

คอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายอย่างมาก โดยเป็นส่วนประกอบหลัก 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกายและมีมากถึง 18 ชนิด ซึ่งชนิดที่พบมากที่สุดหลัก ๆ มีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่

  1. คอลลาเจนชนิดที่ 1 (type I) พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด ผิวหนัง กระจกตา เอ็นและเอ็นยึดกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ช่วยสมานแผล และป้องกันการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ
  2. คอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) ส่วนใหญ่จะพบได้มากในข้อต่อและกระดูกอ่อน ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง คอลลาเจนชนิดนี้จะมีหน้าที่ในการเสริมสร้างกระดูกอ่อน ลดการอักเสบ และความเสื่อมของข้อต่อ อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมข้อต่อที่สึกหรอได้ดีอีกด้วย
  3. คอลลาเจนชนิดที่ 3 (type III) โดยปกติจะพบร่วมกับชนิดที่ 1 โดยเฉพาะในผิวหนังที่สร้างขึ้นมาใหม่ กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด โดยมีหน้าที่ในการป้องกันหลอดเลือดไม่ให้เกิดความเสียหายและมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างโปรตีนในกระดูกและเนื้อเยื่ออีกด้วย
  4. คอลลาเจนชนิดที่ 4 (type IV) พบในชั้นผิวและเยื่อบุผิว
  5. คอลลาเจนชนิดที่ 5 (type V) พบในผิวหนัง เซลล์ผมและรกในขณะตั้งครรภ์

จะเป็นอย่างไร เมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน ?

คอลลาเจนที่ดีที่สุดในร่างกายจะอยู่ในช่วงอายุ 20 ปีต้น ๆ และจะค่อย ๆ สูญเสียคอลลาเจนไปถึงปีละ 1.5% จนเมื่ออายุล่วงเลยถึง 30 ปีขึ้นไปแล้ว ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลงมากกว่าเดิมหรือหยุดการผลิตคอลลาเจนไปเลยก็มี ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมากจากความเสื่อมของร่างกายและพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น พักผ่อนน้อย สูบบุหรี่จัด หรือมีความเครียดสะสม เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากร่างกายขาดคอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) จะส่งผลต่อกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ถึงแม้ว่าร่างกายเราจะสามารถผลิตได้เอง แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนของร่างกายก็จะเสื่อมถอยลงตามไปด้วย จึงทำให้เกิดเป็นอาการต่าง ๆ เหล่านี้

  • ขึ้นหรือลงบันไดลำบาก
  • มีอาการปวดบริเวณข้อเข่าและปวดตามข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย
  • ข้อเข่าหลวม มีเสียงดังกร๊อบแกร๊บ หรือเข่าเบี้ยวผิดรูป
  • มีอาการฝืดตึงบริเวณข้อเข่า ทำให้เหยียดหรืองอเข่าได้ไม่สุด

คอลลาเจนช่วยอะไร ?

คอลลาเจนนอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอริ้วรอย การสมานแผลและความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อแล้ว ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับข้อต่อ กระดูก อาการบาดเจ็บหลังผ่าตัดได้อีกด้วย โดยเฉพาะคอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ดีที่สุดในการบรรเทาอาการเจ็บปวดและชะลอการเสื่อมตัวของกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

บำรุงกระดูกและข้อต่อ เลือกคอลลาเจนที่ดีที่สุดอย่างไร ?

  • เลือกคอลลาเจนให้ถูกชนิด หากต้องการบำรุงกระดูกและข้อต่อหรือลดความรุนแรงของอาการปวดเข่า แนะนำว่าควรเลือกทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) ซึ่งจากหลายงานวิจัย พบว่าการทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) สามารถบรรเทาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อ รวมถึงอาการปวดอื่น ๆ เช่น ปวดคอ ปวดหลัง ปวดข้อหรือการสึกกร่อนของข้อต่อได้
  • เลือกจากสารสกัดหรือส่วนผสม คอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมจะได้มาจากการสกัดจากสัตว์ต่าง ๆ ที่มีโปรตีนสูงเช่น ปลาทะเลน้ำลึก แต่สำหรับผู้แพ้อาหารทะเลควรเลือกรับประทานคอลลาเจนจากแหล่งอื่น เช่น กระดูกของสัตว์ หรือสารสกัดจากวิตามินต่าง ๆ
  • เลือกจากขนาดโมเลกุล คอลลาเจนที่ดีที่สุดควรดูดซึมได้ง่าย โดยมีขนาดโมเลกุลขนาดเล็ก ได้แก่ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ หรือ คอลลาเจนไดเปปไทด์
  • เลือกคอลลาเจนบำรุงกระดูกและข้อต่อที่ได้มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควรได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP HACCP และ อย. ที่ถูกต้องสามารถตรวจสอบได้

คอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) จึงเป็นคอลลาเจนที่ดีที่สุดในการบำรุงกระดูกและข้อ ที่นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าและข้อต่อต่าง ๆ แล้ว คอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) ยังเป็นส่วนประกอบหลักของโปรตีนในข้อและกระดูกอ่อนที่ช่วยเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) อันเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อและยังช่วยยับยั้งการย่อยสลายของน้ำหล่อเลี้ยงข้ออีกด้วย ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพข้อเข่าและกระดูกได้อย่างตรงจุด

Mana Collagen 1 แถม 1
คอลลาเจนบำรุงกระดูก และข้อต่อ ดูดซึมได้ไวที่สุด จากขนาดโมเลกุลขนาดเล็กของคอลลาเจนไดเปปไทด์